การรักษาด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

Peripheral Magnetic Stimulation

PMS คืออะไร ?

PMS หรือ Peripheral Magnetic Stimulation เป็นการรักษาด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้ในการรักษาทางกายภาพบำบัด ซึ่งทำการรักษาโดยส่งผ่านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ไปยังจุดบริเวณที่ปวดให้หดและคลายตัวสลับกันตามความถี่ที่กำหนดไว้ เพื่อกระตุ้นเนื้อเยื่อที่มีอาการปวด ซ่อมแซมการทำงานของเส้นประสาทที่เสียหายและเพิ่มการไหลเวียนเลือดในบริเวณนั้นๆ โดยไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บต่ออวัยวะโดยรอบ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการชาร้าวและเส้นประสาทมีปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

PMS, or Peripheral Magnetic Stimulation, is a treatment that uses electromagnetic waves. It is a technology applied in physical therapy, where electromagnetic waves are transmitted to the painful area, causing the muscles to alternately contract and relax at specific frequencies. This process stimulates the painful tissue, repairs damaged nerve function, and improves blood circulation in the area without causing injury to surrounding organs. It is particularly effective for individuals experiencing numbness, radiating pain, and nerve-related issues.

Contact us for more details

ประโยชน์ของ PMS

  • ลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตึงตัวเรื้อรัง (Reduces chronic muscle stiffness and pain)
  • ลดอาการชาร้าวที่เกิดจากการกดทับของเส้นประสาทหรือเส้นประสาทส่วนปลายส่วนปลายมีปัญหา (Relieves radiating numbness caused by nerve compression or peripheral nerve issues)
  • กระตุ้นให้เกิดการซ่อมแซมส่วนของประสาทที่เสียหาย (Stimulates the repair of damaged nerve areas)
  • เพิ่มความแข็งแรงและชะลอการฝ่อลีบของกล้ามเนื้อ (Increases muscle strength and slows down muscle atrophy)
  • กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการรับรู้ของระบบประสาท (Neuroplasticity) จากที่มีความผิดปกติ ให้กลับมาใกล้เคียงปกติมากที่สุด (Promotes changes in neural perception (neuroplasticity), restoring it as close to normal as possible from its abnormal state)

กลุ่มอาการ
ที่เหมาะสมในการรักษา
ด้วย PMS

  • กลุ่มอาการกล้ามเนื้อพังผืดตึงตัวเรื้อรัง หรือ ออฟฟิศซินโดรม เช่น ปวดกล้ามเนื้อคอบ่าไหล่, หลังล่าง (Chronic myofascial pain syndrome or office syndrome: such as neck, shoulder, and lower back muscle pain.)
  • กลุ่มอาการชา หรือ ผู้ที่มีอาการชาจากปลายประสาทหรือเส้นประสาทถูกกดทับ เช่น ผู้ป่วยเบาหวานที่มีอาการชาตามปลายมือปลายเท้า (Numbness syndrome or individuals experiencing numbness due to peripheral neuropathy or nerve compression, such as diabetic patients with numbness in their hands and feet.)
  • กลุ่มอัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งเกิดจากหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก (Stroke), การบาดเจ็บในสมอง (Traumatic Brain Injury), การบาดเจ็บของไขสันหลัง (Spinal Cord Injury) การรักษาด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถลดอาการเกร็ง, ชะลอการฝ่อลีบ, เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และทำให้อาการฟื้นตัวดีขึ้น (Paralysis syndromes, such as those caused by a stroke (due to a blocked or ruptured blood vessel in the brain), traumatic brain injury (TBI), or spinal cord injury. Electromagnetic therapy can reduce muscle spasms, slow muscle atrophy, increase muscle strength, and improve recovery)
  • กลุ่มอาการที่เกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลัง เช่น กระดูกสันหลังเคลื่อน (Spondylolisthesis), กระดูกคอเสื่อม (Spondylosis) เป็นต้น ซึ่งมีผลต่อเส้นประสาทจากไขสันหลัง หรือการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง การรักษาด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถ กระตุ้นลึกลงไปจนถึงรากประสาทได้ (Spinal disorders, such as spondylolisthesis (slipped vertebrae) and spondylosis (spinal degeneration), which affect the nerves from the spinal cord or involve spinal cord injuries. Electromagnetic therapy can stimulate deep into the nerve roots.)
  • อาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เช่น การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ เอ็น กระดูก การรักษาด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จะช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อและช่วยซ่อมแซมระบบประสาทส่วนที่มีการเสียหายให้กลับมาทำงานเป็นปกติได้เร็วยิ่งขึ้น (Injuries from accidents, such as muscle, ligament, or bone injuries. Electromagnetic therapy helps stimulate tissue regeneration and repair damaged nervous system areas, accelerating recovery.)

สนใจสอบถามบริการกายภาพบำบัดที่ CEYLA Wellness
(Contact us for more details)